07 มี.ค. 2025
ก่อนให้เช่าคอนโด อย่าลืม! คำนวณภาษี ด้วยนะ
ฝันถึงรายได้ก้อนโต แต่อย่าลืมว่า… ก่อนให้เช่าคอนโด บ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ใดๆ ต้องคำนวณ ภาษีให้เช่า โดยคำนึงถึงภาษี 2 ประเภท คือ ภาษีเงินได้ และภาษีที่ดินนักลงทุนทั้งหลาย อย่าลืมว่า… รายได้ก้อนงามจากการลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่า มีรายจ่ายระหว่างทางที่ต้องนำมาหักลบกับรายรับ โดยเฉพาะภาษีที่ต้องจ่ายให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าของคอนโดให้เช่าต้องเสียภาษีหลัก 2 ประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้ และภาษีโรงเรือน แม้เราจะไม่ได้ทำสัญญาเช่า หรือรับเงินแบบนอกระบบ โดยไม่มีหลักฐานหรือใบเสร็จใดๆ ที่เป็นหลักฐานให้ตรวจสอบได้ แต่เราก็ไม่อาจจะวางใจได้ว่าจะรอดปลอดภัยจากการตรวจสอบได้ เนื่องจากเคย มีกรณีที่กรมสรรพากรติดต่อสอบถามผู้เช่าจากเบอร์โทรที่แจ้งประกาศให้เช่าคอนโดไว้ ทำให้ผู้เช่าที่ตั้งใจหลบเลี่ยงภาษีต้องจ่ายเงินเสียภาษีย้อนหลังจำนวนมากดังนั้น ทางที่ดีเราจึงควรดำเนินการต่างๆ ให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ว่าจะเป็นการทำสัญญาเช่า การออกหลักฐาน หรือใบเสร็จรับเงิน การยื่นแจ้งอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า รวมถึงการเสียภาษีตามกฎหมาย เรามาทำความเข้าใจวิธีการคำนวณภาษีเงินได้และภาษีโรงเรือน เพื่อคาดการณ์รายได้สุทธิหลังหักภาษีในแต่ละปีด้วยตัวเอง ภาษีเงินได้ภาษีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน ถือเป็นภาษีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(5) เช่น (ก)การให้เช่าบ้าน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นหรือแพ เป็นต้นเมื่อมีรายได้ดังที่กล่าวมาผู้มีเงินได้ต้องนำไปรวมกับเงินได้อื่นๆ (ถ้ามี) และนำไปยื่นเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้แก่ ภาษีช่วงกลางปี (มกราคม-มิถุนายน) ซึ่งเรียกว่า ภ.ง.ด.94 ชำระภายในเดือนกันยายน และยื่นภาษีสิ้นปีหรือแบบ ภ.ง.ด.90 ภายในเดือนมีนาคมของปีต่อไป- วิธีเงินได้สุทธิ วิธีการคำนวณเงินได้สุทธิจะคำนวณจากเงินทั้งหมดที่ได้รับ ประกอบด้วย รายได้ค่าเช่า และค่าเฟอร์นิเจอร์รวมกัน โดยนำมาหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน ตามสูตรดังนี้
| วิธีหักค่าใช้จ่าย | หักค่าใช้จ่าย |
| หักค่าใช้จ่ายเหมาในอัตรา 30% | สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของคอนโดให้เช่าสามารถหักค่าใช้จ่าย 30% ของยอดรายได้ |
| หักค่าใช้จ่ายจริงตามความจำเป็นและสมควร | สำหรับผู้ที่เตรียมเอกสารไว้เรียบร้อยและประเมินค่าใช้จ่ายของตัวเองไว้ว่าน่าจะสูงกว่า 30% ของรายได้ โดยวิธีนี้สามารถนำภาษีโรงเรือนมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ |
- วิธีเงินได้พึงประเมิน ในกรณีที่รายได้จากการให้เช่าคอนโด และรายได้อื่นที่ไม่ใช่เงินเดือนรวมกันมีรายได้มากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี เราสามารถใช้วิธีเงินได้พึงประเมิน ตามสูตรดังนี้
- ราคาประเมินไม่เกิน 50 ล้านบาท เสียภาษี 0.02% หรือจ่ายล้านละ 200 บาท
- ราคาประเมิน 50-75 ล้านบาท เสียภาษี 0.03% หรือจ่ายล้านละ 300 บาท
- ราคาประเมิน 75-100 ล้านบาท เสียภาษี 0.05% หรือจ่ายล้านละ 500 บาท
- ราคาประเมินเกิน 100 ล้านบาท เสียภาษี 0.10% หรือจ่ายล้านละ 1,000 บาท
- ราคาประเมินไม่เกิน 50 ล้านบาท เสียภาษี 0.3% หรือจ่ายล้านละ 1,000 บาท
- ราคาประเมิน 50-200 ล้านบาท เสียภาษี 0.4% หรือจ่ายล้านละ 4,000 บาท
- ราคาประเมิน 200-1,000 ล้านบาท เสียภาษี 0.5% หรือจ่ายล้านละ 5,000 บาท
- ราคาประเมิน 1,000-5,000 ล้านบาท เสียภาษี 0.6% หรือจ่ายล้านละ 6,000 บาท
- ราคาประเมินเกิน 5,000 ล้านบาท เสียภาษี 0.7% หรือจ่ายล้านละ 7,000 บาท
